เทคนิคแต่งหน้ารับปริญญา ให้สวย ดูดี เด่นกว่าใคร

เทคนิคแต่งหน้ารับปริญญา ให้สวย ดูดี เด่นกว่าใคร

คราวนี้ http://แต่งหน้าใส.blogspot.com มีทริป เทคนิคการแต่งหน้ารับปริญญา ให้สวย ดูดี เด่นกว่าใคร มาฝากกันจ้า ให้สาวๆที่เตรียมตัวรับปริญญาไปใช้กันได้เลยทีเดียว ^^

ก่อนอื่นสาวๆ ต้องรู้ว่าการแต่งหน้ารับปริญญา ควรยึดหลักทางสายกลางคือ แต่งแบบแนวธรรมชาติ ควรคำนึงถึงว่า วันที่รับต้องมีการถ่ายรูปเยอะ เจอแสงแฟลชมากกว่าที่ปกติ แสงแฟลชจะช่วยกลบเงาบนใบหน้าของบัณฑิต แต่งหน้าต้องให้เข้มนิดนึง เน้นตา และปาก (แต่ไม่ต้องมากจนเหมือนไปงานกลางคืน) เพราะแสงแดดและไฟทั้งหลายจะทำให้สีบนใบหน้าดรอปลงไปอีก


สีที่เหมาะกับการแต่งหน้ารับปริญญา ก็คือสีแนวเอิร์ธโทน ทอง ส้ม และชมพู โดยเฉพาะสีเอิร์ธโทน เข้าได้กับทุกสีผิว ดูเป็นธรรมชาติ และเรียบร้อยเข้ากับชุดครุย

เครื่องสำอางที่ควรหลีกเลี่ยง ก็คือ เครื่องสำอางแบบ shimmer ซุปเปอร์วิ้งกระจายทั้งหลาย งานนี้พับเก็บใส่กระเป๋าไว้ที่บ้านก่อน เพราะเวลาโดนแสงแฟลชแล้ว ไอ้วิ้งๆ นี่จะทำให้หน้าของสาวๆ ดูมันกว่าความเป็นจริง และบางมุมดูเราจะเหมือนนางเอกลิเกไปเลย


เครื่องสำอางแบบมุกๆ ก็ยังใช้ได้อยู่ ทำให้หน้าดูไม่เรียบเหมือนการใช้เครื่องสำอางแบบแมทๆ แต่ก็ไม่ควรลงจนหนักมือจนเกินไป ก็อาจให้ผลเดียวกับ shimmer ทั้งหลายได้เช่นกันค่ะ

อีกอย่างที่ควรหลีกเลี่ยง คือ ลิปกรอส มันๆๆๆๆ วาวๆๆๆๆๆๆ พวกนี้ถ้าโดนแสงแฟลช แล้วจะสะท้อนแสงแฟลชมากๆ ทำให้ดูไม่สวยเช่นกัน ลิปสติกเนื้อแมท เป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับงานนี้ หรือถ้ากลัวปากแห้งมาก จะใช้ลิปพวก watershine หรือ กรอสแบบไม่มีสีและไม่วาวจนเกินไปก็ยังพอไหวจ้า


วิธีการ แต่งหน้ารับปริญญา (แบ่งปันข้อมูลดีดี fwdder)

…Eyes and Eyebrow....

How to วันนี้เป็นแบบเร่งด่วนหน่อยนะคะ เพราะไม่มีเวลาทำแบบละเอียด ^^"







1. ลงด้วยสีน้ำตาลเข้มหรือดำ ไล่ระดับความเข้มจากหางตาเข้ามาหากึ่งกลาง ประมาณ 1/3ของดวงตา ถ้าต้องการให้ตาดูโตขึ้น ให้ทาอายแชโดว์ต่อจากหางตาออกไปเล็กน้อย และเกลี่ยให้ลงมาถึงขอบตาล่าง จากห่างตาเข้าไปประมาณ 1/3 ของตาเช่นกัน

2. ลงทับด้วยสีน้ำตาลอ่อน หรือสีทอง (ลงทับสีน้ำตาลที่ทาไว้ตอนแรก จะทำให้สีอ่อนลง และหางตาดูมีมิติมากขึ้น) ลงให้ทั่วเปลือกตา เกลี่ยสีให้เข้ากับสีแรกที่ลง และทาเกินบริเวณรอยพับเปลือกตาเล็กน้อย กะดูว่าเมื่อลืมตาแล้วเห็นสีน้ำตาลฝทองที่ลงไว้ แต่ไม่ต้องลงจนถึงโหนกคิ้ว (ส่วนบนสุดของโซน 3)

3. ใช้อายแชโดว์สีขาวหรือครีมเป็นไฮไลต์ ลงเหนือบริเวณที่ 2 และ เกลี่ยให้เข้ากันจนมองไม่เห็นรอยต่อของสี ถ้าลงบริเวณที่ 2 เข้มมาก สามารถลงสีไฮไลต์ทับลงไปได้

- อาจลงน้ำหนักสีที่ 2 บริเวณหัวตาเพิ่มนิดหน่อย (ประมา 1/3) เพื่อให้ตาดูมีมิติและบาลานซ์กับหางตา
- หรือ อาจใช้ไฮไลต์ หรือ shimmer แตะตรงกึ่งกลางดวงตาเพียงนิดเดียว และ เกลี่ยเป็นช่วงแคบๆ (บริเวณตรงกลางระหว่างเลข 1 และ 2) ให้ตาช่วงกลางดูสว่างขึ้น

4. ใช้สีน้ำตาลอ่อน (สีที่2) ลงทับสีเข้มที่ลงไว้ในตอนแรก จากหางตาเข้ามาประมาณ ¾ ของตา และใช้ไฮไลต์สีขาวลงตรงหัวตา (ไม่ต้องเด่นมาก ถ่ายภาพจะทำให้ดูหลอก) เกลี่ยให้ไม่เห็นรอยต่อของสีเข้มและอ่อน

5. ลงไฮไลต์ใต้ตา และเกลี่ยให้เนียน


…Eyeliner....

* จะใช้หรือไม่ก็ได้ ไม่จำเป็นมาก ถ้าลงอายโดว์ตรงหางตาเข้มพอประมาณ ก็ไม่จำเป็นต้องกรีดไลน์เนอร์ซ้ำก็ได้



* กรีดอายไลน์เนอร์ลิควิดสีดำหรือน้ำตาลเข้ม เป็นเส้นเล็กๆ อาจจะกรีดแบบทั้งตา หรือเขียนแค่ครึ่งเดียวก็ได้ หากต้องการให้ดูธรรมชาติ ควรกรีดแค่พอดีหางตาหรือเกินมาเล็กน้อย และเขียนขอบตาล่างเล็กน้อย

* ถ้ากรีดไลน์เนอร์แบบลิควิดไม่เป็น ใช้ดินสอไลน์เนอร์เขียนก็ได้ แต่ให้เขียนแค่ครึ่งตา และพยายามเขียนให้เส้นเล็กชิดขอบตามากที่สุด อาจใช้คอตต้อนบัดช่วยเกลี่ยเส้นให้ดูกลมกลืนกับอายแชโดว์ที่ลงไว้ก็ได้

* หลังจากนั้นก็ ดัดขนตา ปัดมาสคาร่าตามระเบียบ

* การเขียนคิ้ว ไม่ควรใช้สีดำลงคิ้ว ให้ใช้สีน้ำตาล หรือน้ำตาลอ่อนจะดีกว่า จะทำให้ใบหน้าดูซอฟท์ลงและสว่างขึ้น


…Cheek and Lips....

* ปัดแก้มให้พอดูมีสีสันแต่ไม่ต้องเข้มมาก เริ่มปัดจากส่วนที่ต้องการจะเน้นแล้วค่อยๆ เกลี่ยให้กระจายออกไป

* สุดท้ายและท้ายสุด สีลิปสติก เอามาเปรียบเทียบให้ดู 3 แบบ แล้วลองเลือกเอาละกันนะคะ ว่าชอบแบบไหน


…Cosmetic....

ด้านบนคือ Idea และ เทคนิคในการแต่งหน้า ให้ไว้เป็นแนว สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ตามสบาย

ส่วนข้างล่างคือรายการเครื่องสำอางที่ใช้แต่งหน้าด้านบนค่ะ
ราคาย่อมเยาและหาซื้อได้ไม่ยากค่ะ

ตา

Kate Line Spicy Eyeshadow - พอดีเพิ่งได้มาใหม่เลยลองเล่นซะเลย

ภาพที่เห็นนี่นำมาจากอินเตอร์เนตค่ะ เพราะไม่ได้ถ่ายตลับไว้ สีจะไม่ค่อยเหมือนที่ใช้อยู่จริงๆ ภาพนี้จะออกหม่นๆ กว่านะคะ แต่สีที่เราใช้จะเป็นสีออกทองกว่านี้ค่ะ รู้สึกจะเป็น BR-1 (ขอโทษด้วย ไม่ได้ถ่ายรูปไว้และตลับไม่ได้อยู่กับตัว)

สีจะออกโทนเดียวกัน และเราลงสีตามหมายเลขที่กำกับไว้ค่ะ






Eyeliner & Mascara

eyeliner และ มาสคาร่าใช้ jetset ของ cutepress แต่ตอนปัดมาสคาร่า ใช้ fasio ปัดบางๆ ก่อน 1 รอบ เพราะ jetset จะไม่ติดทนทั้งวัน แต่ปัดแล้วขนตายาวสวยกว่า fasio ค่ะ (ตามประสบการณ์นะคะ)

แก้ม
ใช้สี Missha Blusher สี Cooper Bronze

ปาก

1. รูปซ้ายใช้ hazelnut sauce ของ เมเบลีน ผสมกับ carnation ของ BB
รูปที่ 2 ใช้ carnation ของ BB
รูปที่ 3 ใช้ Burnt Red

เสร็จเรียบร้อยกันแล้ว กับการสอนสอนแต่งหน้ารับปริญญาแบบง่ายๆ ดูไว้เป็นไอเดีย ขอให้สาวๆสวยในวันงานกันทุกคน และแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ทุกคนเลยจ้า ^^

แต่งหน้าใส.blogspot.com สอนแต่งหน้ารับปริญญา-แต่งหน้าเจ้าสาว ค่า

>> แต่งหน้าใสๆ แบบสไตล์เกาหลี สอนแต่งหน้ารับปริญญา แต่งหน้าเจ้าสาวด้วยตัวเอง
http://แต่งหน้าใส.blogspot.com. ขับเคลื่อนโดย Blogger.

เทคนิคแต่งหน้ารับปริญญา ให้สวย ดูดี เด่นกว่าใคร

เทคนิคแต่งหน้ารับปริญญา ให้สวย ดูดี เด่นกว่าใคร

คราวนี้ http://แต่งหน้าใส.blogspot.com มีทริป เทคนิคการแต่งหน้ารับปริญญา ให้สวย ดูดี เด่นกว่าใคร มาฝากกันจ้า ให้สาวๆที่เตรียมตัวรับปริญญาไปใช้กันได้เลยทีเดียว ^^

ก่อนอื่นสาวๆ ต้องรู้ว่าการแต่งหน้ารับปริญญา ควรยึดหลักทางสายกลางคือ แต่งแบบแนวธรรมชาติ ควรคำนึงถึงว่า วันที่รับต้องมีการถ่ายรูปเยอะ เจอแสงแฟลชมากกว่าที่ปกติ แสงแฟลชจะช่วยกลบเงาบนใบหน้าของบัณฑิต แต่งหน้าต้องให้เข้มนิดนึง เน้นตา และปาก (แต่ไม่ต้องมากจนเหมือนไปงานกลางคืน) เพราะแสงแดดและไฟทั้งหลายจะทำให้สีบนใบหน้าดรอปลงไปอีก


สีที่เหมาะกับการแต่งหน้ารับปริญญา ก็คือสีแนวเอิร์ธโทน ทอง ส้ม และชมพู โดยเฉพาะสีเอิร์ธโทน เข้าได้กับทุกสีผิว ดูเป็นธรรมชาติ และเรียบร้อยเข้ากับชุดครุย

เครื่องสำอางที่ควรหลีกเลี่ยง ก็คือ เครื่องสำอางแบบ shimmer ซุปเปอร์วิ้งกระจายทั้งหลาย งานนี้พับเก็บใส่กระเป๋าไว้ที่บ้านก่อน เพราะเวลาโดนแสงแฟลชแล้ว ไอ้วิ้งๆ นี่จะทำให้หน้าของสาวๆ ดูมันกว่าความเป็นจริง และบางมุมดูเราจะเหมือนนางเอกลิเกไปเลย


เครื่องสำอางแบบมุกๆ ก็ยังใช้ได้อยู่ ทำให้หน้าดูไม่เรียบเหมือนการใช้เครื่องสำอางแบบแมทๆ แต่ก็ไม่ควรลงจนหนักมือจนเกินไป ก็อาจให้ผลเดียวกับ shimmer ทั้งหลายได้เช่นกันค่ะ

อีกอย่างที่ควรหลีกเลี่ยง คือ ลิปกรอส มันๆๆๆๆ วาวๆๆๆๆๆๆ พวกนี้ถ้าโดนแสงแฟลช แล้วจะสะท้อนแสงแฟลชมากๆ ทำให้ดูไม่สวยเช่นกัน ลิปสติกเนื้อแมท เป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับงานนี้ หรือถ้ากลัวปากแห้งมาก จะใช้ลิปพวก watershine หรือ กรอสแบบไม่มีสีและไม่วาวจนเกินไปก็ยังพอไหวจ้า


วิธีการ แต่งหน้ารับปริญญา (แบ่งปันข้อมูลดีดี fwdder)

…Eyes and Eyebrow....

How to วันนี้เป็นแบบเร่งด่วนหน่อยนะคะ เพราะไม่มีเวลาทำแบบละเอียด ^^"







1. ลงด้วยสีน้ำตาลเข้มหรือดำ ไล่ระดับความเข้มจากหางตาเข้ามาหากึ่งกลาง ประมาณ 1/3ของดวงตา ถ้าต้องการให้ตาดูโตขึ้น ให้ทาอายแชโดว์ต่อจากหางตาออกไปเล็กน้อย และเกลี่ยให้ลงมาถึงขอบตาล่าง จากห่างตาเข้าไปประมาณ 1/3 ของตาเช่นกัน

2. ลงทับด้วยสีน้ำตาลอ่อน หรือสีทอง (ลงทับสีน้ำตาลที่ทาไว้ตอนแรก จะทำให้สีอ่อนลง และหางตาดูมีมิติมากขึ้น) ลงให้ทั่วเปลือกตา เกลี่ยสีให้เข้ากับสีแรกที่ลง และทาเกินบริเวณรอยพับเปลือกตาเล็กน้อย กะดูว่าเมื่อลืมตาแล้วเห็นสีน้ำตาลฝทองที่ลงไว้ แต่ไม่ต้องลงจนถึงโหนกคิ้ว (ส่วนบนสุดของโซน 3)

3. ใช้อายแชโดว์สีขาวหรือครีมเป็นไฮไลต์ ลงเหนือบริเวณที่ 2 และ เกลี่ยให้เข้ากันจนมองไม่เห็นรอยต่อของสี ถ้าลงบริเวณที่ 2 เข้มมาก สามารถลงสีไฮไลต์ทับลงไปได้

- อาจลงน้ำหนักสีที่ 2 บริเวณหัวตาเพิ่มนิดหน่อย (ประมา 1/3) เพื่อให้ตาดูมีมิติและบาลานซ์กับหางตา
- หรือ อาจใช้ไฮไลต์ หรือ shimmer แตะตรงกึ่งกลางดวงตาเพียงนิดเดียว และ เกลี่ยเป็นช่วงแคบๆ (บริเวณตรงกลางระหว่างเลข 1 และ 2) ให้ตาช่วงกลางดูสว่างขึ้น

4. ใช้สีน้ำตาลอ่อน (สีที่2) ลงทับสีเข้มที่ลงไว้ในตอนแรก จากหางตาเข้ามาประมาณ ¾ ของตา และใช้ไฮไลต์สีขาวลงตรงหัวตา (ไม่ต้องเด่นมาก ถ่ายภาพจะทำให้ดูหลอก) เกลี่ยให้ไม่เห็นรอยต่อของสีเข้มและอ่อน

5. ลงไฮไลต์ใต้ตา และเกลี่ยให้เนียน


…Eyeliner....

* จะใช้หรือไม่ก็ได้ ไม่จำเป็นมาก ถ้าลงอายโดว์ตรงหางตาเข้มพอประมาณ ก็ไม่จำเป็นต้องกรีดไลน์เนอร์ซ้ำก็ได้



* กรีดอายไลน์เนอร์ลิควิดสีดำหรือน้ำตาลเข้ม เป็นเส้นเล็กๆ อาจจะกรีดแบบทั้งตา หรือเขียนแค่ครึ่งเดียวก็ได้ หากต้องการให้ดูธรรมชาติ ควรกรีดแค่พอดีหางตาหรือเกินมาเล็กน้อย และเขียนขอบตาล่างเล็กน้อย

* ถ้ากรีดไลน์เนอร์แบบลิควิดไม่เป็น ใช้ดินสอไลน์เนอร์เขียนก็ได้ แต่ให้เขียนแค่ครึ่งตา และพยายามเขียนให้เส้นเล็กชิดขอบตามากที่สุด อาจใช้คอตต้อนบัดช่วยเกลี่ยเส้นให้ดูกลมกลืนกับอายแชโดว์ที่ลงไว้ก็ได้

* หลังจากนั้นก็ ดัดขนตา ปัดมาสคาร่าตามระเบียบ

* การเขียนคิ้ว ไม่ควรใช้สีดำลงคิ้ว ให้ใช้สีน้ำตาล หรือน้ำตาลอ่อนจะดีกว่า จะทำให้ใบหน้าดูซอฟท์ลงและสว่างขึ้น


…Cheek and Lips....

* ปัดแก้มให้พอดูมีสีสันแต่ไม่ต้องเข้มมาก เริ่มปัดจากส่วนที่ต้องการจะเน้นแล้วค่อยๆ เกลี่ยให้กระจายออกไป

* สุดท้ายและท้ายสุด สีลิปสติก เอามาเปรียบเทียบให้ดู 3 แบบ แล้วลองเลือกเอาละกันนะคะ ว่าชอบแบบไหน


…Cosmetic....

ด้านบนคือ Idea และ เทคนิคในการแต่งหน้า ให้ไว้เป็นแนว สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ตามสบาย

ส่วนข้างล่างคือรายการเครื่องสำอางที่ใช้แต่งหน้าด้านบนค่ะ
ราคาย่อมเยาและหาซื้อได้ไม่ยากค่ะ

ตา

Kate Line Spicy Eyeshadow - พอดีเพิ่งได้มาใหม่เลยลองเล่นซะเลย

ภาพที่เห็นนี่นำมาจากอินเตอร์เนตค่ะ เพราะไม่ได้ถ่ายตลับไว้ สีจะไม่ค่อยเหมือนที่ใช้อยู่จริงๆ ภาพนี้จะออกหม่นๆ กว่านะคะ แต่สีที่เราใช้จะเป็นสีออกทองกว่านี้ค่ะ รู้สึกจะเป็น BR-1 (ขอโทษด้วย ไม่ได้ถ่ายรูปไว้และตลับไม่ได้อยู่กับตัว)

สีจะออกโทนเดียวกัน และเราลงสีตามหมายเลขที่กำกับไว้ค่ะ






Eyeliner & Mascara

eyeliner และ มาสคาร่าใช้ jetset ของ cutepress แต่ตอนปัดมาสคาร่า ใช้ fasio ปัดบางๆ ก่อน 1 รอบ เพราะ jetset จะไม่ติดทนทั้งวัน แต่ปัดแล้วขนตายาวสวยกว่า fasio ค่ะ (ตามประสบการณ์นะคะ)

แก้ม
ใช้สี Missha Blusher สี Cooper Bronze

ปาก

1. รูปซ้ายใช้ hazelnut sauce ของ เมเบลีน ผสมกับ carnation ของ BB
รูปที่ 2 ใช้ carnation ของ BB
รูปที่ 3 ใช้ Burnt Red

เสร็จเรียบร้อยกันแล้ว กับการสอนสอนแต่งหน้ารับปริญญาแบบง่ายๆ ดูไว้เป็นไอเดีย ขอให้สาวๆสวยในวันงานกันทุกคน และแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ทุกคนเลยจ้า ^^