เทคนิคแต่งหน้ารับปริญญา ให้สวย ดูดี เด่นกว่าใคร

เทคนิคแต่งหน้ารับปริญญา ให้สวย ดูดี เด่นกว่าใคร

คราวนี้ http://แต่งหน้าใส.blogspot.com มีทริป เทคนิคการแต่งหน้ารับปริญญา ให้สวย ดูดี เด่นกว่าใคร มาฝากกันจ้า ให้สาวๆที่เตรียมตัวรับปริญญาไปใช้กันได้เลยทีเดียว ^^

ก่อนอื่นสาวๆ ต้องรู้ว่าการแต่งหน้ารับปริญญา ควรยึดหลักทางสายกลางคือ แต่งแบบแนวธรรมชาติ ควรคำนึงถึงว่า วันที่รับต้องมีการถ่ายรูปเยอะ เจอแสงแฟลชมากกว่าที่ปกติ แสงแฟลชจะช่วยกลบเงาบนใบหน้าของบัณฑิต แต่งหน้าต้องให้เข้มนิดนึง เน้นตา และปาก (แต่ไม่ต้องมากจนเหมือนไปงานกลางคืน) เพราะแสงแดดและไฟทั้งหลายจะทำให้สีบนใบหน้าดรอปลงไปอีก


สีที่เหมาะกับการแต่งหน้ารับปริญญา ก็คือสีแนวเอิร์ธโทน ทอง ส้ม และชมพู โดยเฉพาะสีเอิร์ธโทน เข้าได้กับทุกสีผิว ดูเป็นธรรมชาติ และเรียบร้อยเข้ากับชุดครุย

เครื่องสำอางที่ควรหลีกเลี่ยง ก็คือ เครื่องสำอางแบบ shimmer ซุปเปอร์วิ้งกระจายทั้งหลาย งานนี้พับเก็บใส่กระเป๋าไว้ที่บ้านก่อน เพราะเวลาโดนแสงแฟลชแล้ว ไอ้วิ้งๆ นี่จะทำให้หน้าของสาวๆ ดูมันกว่าความเป็นจริง และบางมุมดูเราจะเหมือนนางเอกลิเกไปเลย


เครื่องสำอางแบบมุกๆ ก็ยังใช้ได้อยู่ ทำให้หน้าดูไม่เรียบเหมือนการใช้เครื่องสำอางแบบแมทๆ แต่ก็ไม่ควรลงจนหนักมือจนเกินไป ก็อาจให้ผลเดียวกับ shimmer ทั้งหลายได้เช่นกันค่ะ

อีกอย่างที่ควรหลีกเลี่ยง คือ ลิปกรอส มันๆๆๆๆ วาวๆๆๆๆๆๆ พวกนี้ถ้าโดนแสงแฟลช แล้วจะสะท้อนแสงแฟลชมากๆ ทำให้ดูไม่สวยเช่นกัน ลิปสติกเนื้อแมท เป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับงานนี้ หรือถ้ากลัวปากแห้งมาก จะใช้ลิปพวก watershine หรือ กรอสแบบไม่มีสีและไม่วาวจนเกินไปก็ยังพอไหวจ้า


วิธีการ แต่งหน้ารับปริญญา (แบ่งปันข้อมูลดีดี fwdder)

…Eyes and Eyebrow....

How to วันนี้เป็นแบบเร่งด่วนหน่อยนะคะ เพราะไม่มีเวลาทำแบบละเอียด ^^"







1. ลงด้วยสีน้ำตาลเข้มหรือดำ ไล่ระดับความเข้มจากหางตาเข้ามาหากึ่งกลาง ประมาณ 1/3ของดวงตา ถ้าต้องการให้ตาดูโตขึ้น ให้ทาอายแชโดว์ต่อจากหางตาออกไปเล็กน้อย และเกลี่ยให้ลงมาถึงขอบตาล่าง จากห่างตาเข้าไปประมาณ 1/3 ของตาเช่นกัน

2. ลงทับด้วยสีน้ำตาลอ่อน หรือสีทอง (ลงทับสีน้ำตาลที่ทาไว้ตอนแรก จะทำให้สีอ่อนลง และหางตาดูมีมิติมากขึ้น) ลงให้ทั่วเปลือกตา เกลี่ยสีให้เข้ากับสีแรกที่ลง และทาเกินบริเวณรอยพับเปลือกตาเล็กน้อย กะดูว่าเมื่อลืมตาแล้วเห็นสีน้ำตาลฝทองที่ลงไว้ แต่ไม่ต้องลงจนถึงโหนกคิ้ว (ส่วนบนสุดของโซน 3)

3. ใช้อายแชโดว์สีขาวหรือครีมเป็นไฮไลต์ ลงเหนือบริเวณที่ 2 และ เกลี่ยให้เข้ากันจนมองไม่เห็นรอยต่อของสี ถ้าลงบริเวณที่ 2 เข้มมาก สามารถลงสีไฮไลต์ทับลงไปได้

- อาจลงน้ำหนักสีที่ 2 บริเวณหัวตาเพิ่มนิดหน่อย (ประมา 1/3) เพื่อให้ตาดูมีมิติและบาลานซ์กับหางตา
- หรือ อาจใช้ไฮไลต์ หรือ shimmer แตะตรงกึ่งกลางดวงตาเพียงนิดเดียว และ เกลี่ยเป็นช่วงแคบๆ (บริเวณตรงกลางระหว่างเลข 1 และ 2) ให้ตาช่วงกลางดูสว่างขึ้น

4. ใช้สีน้ำตาลอ่อน (สีที่2) ลงทับสีเข้มที่ลงไว้ในตอนแรก จากหางตาเข้ามาประมาณ ¾ ของตา และใช้ไฮไลต์สีขาวลงตรงหัวตา (ไม่ต้องเด่นมาก ถ่ายภาพจะทำให้ดูหลอก) เกลี่ยให้ไม่เห็นรอยต่อของสีเข้มและอ่อน

5. ลงไฮไลต์ใต้ตา และเกลี่ยให้เนียน


…Eyeliner....

* จะใช้หรือไม่ก็ได้ ไม่จำเป็นมาก ถ้าลงอายโดว์ตรงหางตาเข้มพอประมาณ ก็ไม่จำเป็นต้องกรีดไลน์เนอร์ซ้ำก็ได้



* กรีดอายไลน์เนอร์ลิควิดสีดำหรือน้ำตาลเข้ม เป็นเส้นเล็กๆ อาจจะกรีดแบบทั้งตา หรือเขียนแค่ครึ่งเดียวก็ได้ หากต้องการให้ดูธรรมชาติ ควรกรีดแค่พอดีหางตาหรือเกินมาเล็กน้อย และเขียนขอบตาล่างเล็กน้อย

* ถ้ากรีดไลน์เนอร์แบบลิควิดไม่เป็น ใช้ดินสอไลน์เนอร์เขียนก็ได้ แต่ให้เขียนแค่ครึ่งตา และพยายามเขียนให้เส้นเล็กชิดขอบตามากที่สุด อาจใช้คอตต้อนบัดช่วยเกลี่ยเส้นให้ดูกลมกลืนกับอายแชโดว์ที่ลงไว้ก็ได้

* หลังจากนั้นก็ ดัดขนตา ปัดมาสคาร่าตามระเบียบ

* การเขียนคิ้ว ไม่ควรใช้สีดำลงคิ้ว ให้ใช้สีน้ำตาล หรือน้ำตาลอ่อนจะดีกว่า จะทำให้ใบหน้าดูซอฟท์ลงและสว่างขึ้น


…Cheek and Lips....

* ปัดแก้มให้พอดูมีสีสันแต่ไม่ต้องเข้มมาก เริ่มปัดจากส่วนที่ต้องการจะเน้นแล้วค่อยๆ เกลี่ยให้กระจายออกไป

* สุดท้ายและท้ายสุด สีลิปสติก เอามาเปรียบเทียบให้ดู 3 แบบ แล้วลองเลือกเอาละกันนะคะ ว่าชอบแบบไหน


…Cosmetic....

ด้านบนคือ Idea และ เทคนิคในการแต่งหน้า ให้ไว้เป็นแนว สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ตามสบาย

ส่วนข้างล่างคือรายการเครื่องสำอางที่ใช้แต่งหน้าด้านบนค่ะ
ราคาย่อมเยาและหาซื้อได้ไม่ยากค่ะ

ตา

Kate Line Spicy Eyeshadow - พอดีเพิ่งได้มาใหม่เลยลองเล่นซะเลย

ภาพที่เห็นนี่นำมาจากอินเตอร์เนตค่ะ เพราะไม่ได้ถ่ายตลับไว้ สีจะไม่ค่อยเหมือนที่ใช้อยู่จริงๆ ภาพนี้จะออกหม่นๆ กว่านะคะ แต่สีที่เราใช้จะเป็นสีออกทองกว่านี้ค่ะ รู้สึกจะเป็น BR-1 (ขอโทษด้วย ไม่ได้ถ่ายรูปไว้และตลับไม่ได้อยู่กับตัว)

สีจะออกโทนเดียวกัน และเราลงสีตามหมายเลขที่กำกับไว้ค่ะ






Eyeliner & Mascara

eyeliner และ มาสคาร่าใช้ jetset ของ cutepress แต่ตอนปัดมาสคาร่า ใช้ fasio ปัดบางๆ ก่อน 1 รอบ เพราะ jetset จะไม่ติดทนทั้งวัน แต่ปัดแล้วขนตายาวสวยกว่า fasio ค่ะ (ตามประสบการณ์นะคะ)

แก้ม
ใช้สี Missha Blusher สี Cooper Bronze

ปาก

1. รูปซ้ายใช้ hazelnut sauce ของ เมเบลีน ผสมกับ carnation ของ BB
รูปที่ 2 ใช้ carnation ของ BB
รูปที่ 3 ใช้ Burnt Red

เสร็จเรียบร้อยกันแล้ว กับการสอนสอนแต่งหน้ารับปริญญาแบบง่ายๆ ดูไว้เป็นไอเดีย ขอให้สาวๆสวยในวันงานกันทุกคน และแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ทุกคนเลยจ้า ^^

วิธีการเขียนขอบตาบน ล่าง ด้วยอายไลน์เนอร์ สไตล์เกาหลี แบบ YuBin (ยูบิน) Wonder Girls

วิธีเขียนขอบตาบน ล่าง ด้วยอายไลน์เนอร์ สไตล์เกาหลี (YuBin ยูบิน Wonder Girls)





เห็นแล้วง่ายนิ๊ดดดเดียว >.< สาวๆ ลองเขียนขอบตาแบบนี้กันดูนะจ๊ะ สวย ใส กันยังไงอย่างลืมบอกต่อๆกันล่ะ ^^

ดูแลรักษาขนตาให้สวย ถนอมไว้ยาวนานกับการแต่งหน้าใส

ดูแลรักษาขนตาให้สวย ถนอมไว้ยาวนานกับการแต่งหน้าใส


ขนตาสวย ยาว งอนงามช่วยเสริมสร้างเสน่ห์ที่ดวงตาของคุญได้ไม่น้อยเลยทีเดียวนอกเหนือจากการแต่งหน้าใสแล้ว ขนดางอน ยาว ทำให้ใบหน้าดูสวย มีเสน่ห์ขึ้นด้วย เหตุนี้จึงทำให้สาว ๆ ลุกขึ้นมาปัดขนตาให้งอนยาวบวกเด้งกันยกใหญ่ นอกจากนี้ความสวยเพียงอย่างเดียวไม่พอเสียแล้ว สาวๆต้องรู้จักการดูแลรักษาขนตาให้แข็งแรงด้วยเพื่อความสวยที่ยืนยาว วันนี้ http://xn--72c1an2ed7b9fva4bn.blogspot.com จึงมีคำแนะนำดีดีในการดูแล รักษา ขนตา ถนอมไว้ยาวนานกับการแต่งหน้าใสจากสถาบันลอรีอัล(L'Oreal) มาฝากสาวๆ กัน

ก่อนอื่นเรามาลองทำความรู้จักกับขนตากันก่อน "ขนตา" มีลักษณะเป็นเส้นโค้งทำหน้าที่ป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับดวงตาและทำให้กระจกตามีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ โดย มีการเรียงตัวของขน 2-4 แถวตามแนวของขอบหนังตา ซึ่งขนตาบนมีมากกว่าและยาวกว่าขนตาล่าง แบ่งโครงสร้างได้เป็น 3 ชั้น คือชั้นเปลือกขน, ชั้นนอกจะมีเม็ดสีอยู่บริเวณต่อมรากขน และชั้นใน ขนตาไม่มีกล้ามเนื้อยึดเกาะที่ตัวขน แต่มีต่อมใต้ผิวหนังจำนวนมากบริเวณขนตา ประกอบด้วยต่อมเหงื่อและต่อมไขมัน อยู่ร่วมกับต่อมรากขนของขนตา ทำหน้าที่สร้างน้ำมันมาเคลือบขนตา และยังมีต่อมไขมันชนิดพิเศษเรียกว่า Meibomian gland คอยสร้างสารประเภทไขมันเหมือนฟิล์มบาง ๆ เคลือบดวงตาเพื่อป้องกันไม่ให้ตาแห้งเกินไป ขนตามีความแข็งแรงน้อยและระยะการเติบโตที่ช้า ดังนั้นจึงควรดูแลถนอมขนตาให้สะอาดแข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ คือ

1. ทำความสะอาดมาสคาร่าออกให้หมด ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดโดยเฉพาะชุบสำลีเช็ดเบา ๆ อย่าปล่อยให้มาสคาร่าเกาะติดขนตาข้ามคืนเพราะอันตราย ต่อดวงตาและขนตา พักขนตาบ้าง เพื่อให้ขนตาได้พักผ่อนและหายใจโดยไม่มีสิ่งใดมาบัง

2. กินอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อช่วยให้ขนตาแข็งแรง เนื้อวัว หมู ไข่ นมเนย ผักใบเขียว ถั่ว ธาตุเหล็ก สังกะสี วิตามินซี และบีรวม

3. บำรุงขนตา ด้วยการทาเซรั่มหรือผลิตภัณฑ์บำรุงขนตาโดยเฉพาะ จะทำให้ ขนตาแข็งแรง หลุดร่วงน้อย ควรเลือกชนิดที่ปราศจากน้ำหอมและสารระคายเคืองดวงตา

4. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อขนตา เพื่อไม่ให้ขนตาร่วงก่อนเวลาอันควร เวลาล้างมาสคาร่าต้องทำอย่างเบามือ เลิกขยี้ตาหรือถูตาแรง ๆ

5. เลี่ยงการติดขนตาปลอม เพราะบางชนิดคุณภาพต่ำอาจทำให้เกิดการแพ้บริเวณขอบตา กระจกตาอักเสบ อีกทั้งเวลาดึงขนตาปลอมอาจทำให้ขนตาจริงหลุดติดมาด้วย ถ้าทำบ่อยจะทำให้ขนตาหลุดร่วง ไม่แข็งแรง หักง่าย ยิ่งถ้าขนตาปลอมไม่สะอาดพออาจทำให้ดวงตาติดเชื้ออักเสบได้


คราวนี้สาวๆ ก็รู้จักวิธีดูแลรักษาขนตาให้สวย ถนอมไว้ยาวนานกับการแต่งหน้าใสกันแล้ว ลองปฏิบัติๆกันดูนะคะ ถ้าได้ผลดียังไง ก็อย่างลืมบอกต่อๆกันนะจ๊ะ เผื่อความงามจะได้อยู่คู่สาวๆ ไปนานๆ ^^

ประเภทรองพื้นที่เหมาะกับผิวหน้าคุณ ^_~



สวัสดีค่ะ http://แต่งหน้าใส.blogspot.com มีความรู้ดีๆ สำหรับสาวๆมาฝากกันเช่นเคย^^ การแต่งหน้าด้วยตนเองเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน เราต้องเข้าใจสภาพผิวของเราว่าเป็นผิวแห้ง ผิวมันหรือผิวผสม เพราะวันนี้ แต่งหน้าใส ขอเสนอเรื่องของรองพื้น ชนิดของรองพื้นประเภทต่างๆ ให้สาวๆได้เลือกใช้ก่อนการแต่งหน้าขั้นต่อไป มาดูกันสิคะว่า รองพื้นชนิด หรือประเภทไหนจะเหมาะกับผิวคุณ ~^^~

รองพื้นโดยทั่วไป มีทั้งหมด 8 ประเภทดังนี้

1. รองพื้นแบบแท่ง (Stick Foundation): ผลิตภัณฑ์รองพื้นนี้ เป็นรองพื้นและconcealerรวมกันเป็นหนึ่งแท่ง ในการแต่งหน้ารองพื้นแบบแท่งสามารถช่วยปกปิดผิวที่มีปัญหาเช่น ริ้วรอย แผลเป็น สีไม่เท่ากันของผิว ได้มากขึ้นกว่ารองพื้นชนิดอื่นๆ เหมาะสำหรับผิวแห้ง ไม่เหมาะสำหรับผิวมัน ข้อดี คือ ใช้ได้ง่ายและปกปิดได้อย่างรวดเร็ว


2. รองพื้นแบบน้ำ (Liquid Foundation): รองพื้นชนิดนี้พอมากตามท้องตลาด มันออกมาในรูป oil free เหมาะกับทุกสภาพผิว เป็นพื้นฐานของรองพื้น และเหมาะกับผู้เริ่มฝึกแต่งหน้า หรือคนที่ต้องการการแต่งหน้าแบบเผยผิวจริง แต่งหน้าใสๆ แต่งหน้าแบบเกาหลี เป็นต้น เพราะใช้ง่าย ส่วนการปกปิดนั้น ปกปิดได้ไม่มากจ้า
3. รองพื้นแบบครีม (Cream Foundation): รองพื้นครีม เน้นการปกปิดที่ดีมาก เพราะเนื้อครีมจะหนา ติดทนนาน ผู้ใช้รองพื้นแบบครีมต้องมีความชำนาญในระดับหนึ่งก่อนจึงจะเริ่มใช้ หรือไม่ก็เลือกใช้เฉพาะส่วนของผิวหน้าที่มีปัญหา ข้อแนะนำ:ควรใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆ ช่วยเกลี่ยเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
4. รองพื้นแบบมูส (Mousse Foundation): รองพื้นแบบมูสคือรองพื้นเนื้อครีมธรรมดา ที่ทำในรูปแบบฟองครีม เป็นรองพื้นปกปิดบางเบาแลดูเป็นธรรมชาติ รองพื้นแบบมูสจะไม่เกาะตามรอยร่องที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ของผิวหน้า จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้มีริ้วรอย หรือ ผู้มีอายุ
5. รองพื้นแบบทิ้นส์ (Tinted Moisturizer): ในที่นี้ คือ มอยเจอร์ไรเซอร์ ครีมบำรุงผิวที่เติมสีลงไปเล็กน้อย ทำให้หลังใช้จะดูผิวเรียนเนียนขึ้น แต่ไม่ช่วยปกปิดมากนัก เหมาะกับสภาพผิวที่ดีอยู่แล้ว และต้องโดนใจสำหรับสาวๆที่ชอบแต่งหน้าใสๆ ~^^~ เลยละซิ





6. รองพื้นแบบเปลี่ยนสถานะ (Cream to Powder): รองพื้นชนิดนี้เหมาะกับผิวมัน เพราะหลังจากทารองพื้นไปบนผิวหน้า ครีมรองพื้นชนิดนี้จะเปลี่ยนเป็นแป้งโดยเร็ว เนื่องจากแป้งมีตัวช่วยซับน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าเอาไว้
7. รองพื้นแบบแป้ง (Powder Foundation): รองพื้นแบบแป้ง จะเหมากับสาวๆ ที่เพิ่งหัดแต่งหน้า เพราะใช้ง่าย แม้สาวคนไหนไม่เคยใช้มาก่อนก่อตาม ปกปิดได้ปานกลาง นอกจากนี้ยังเหมาะกับช่วงหน้าร้อน เพราะไม่ทำให้ผิวเหนอะหนะ
8. รองพื้นแบบสเปรย์ (Spray Foundation): รูปแบบของรองพื้นประเภทนี้ เป็นรองพื้นที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ ใช้ง่าย ที่ให้ความรู้สึกบางเบาสบายผิว สามารถฉีดเสปรย์ไปบนผิวหน้าได้โดยตรง หรือ ใช้ฟองน้ำก็ได้

ว้าว!! คราวนี้สาวๆก็มีความรู้เรื่องรองพื้นกันแล้ว ลองหาซื้อมาใช้กันได้เลยนะจ๊ะ อย่าลืมให้เหมาะกับผิวหน้า และลักษณะการแต่งหน้าที่คุณต้องการ แต่งหน้าใสๆ แต่งหน้าแบบเกาหลี ก็ใช้รองพื้นที่ปกปิดไม้ต้องหนามากนัก หากต้องออกงานกลางแจ้ง เช่นงานรับปริญญา งานแต่งงาน ก็เลือกที่ปกปิดริ้วรอย หรือแผลเป็นมากสักหน่อย หรือลองสอบถามผู้เชียวชาญ เพื่อนๆ ดูก็ได้นะจ๊ะ เพื่อความงามของสาวๆเองล่ะจ้า!

10 พื้นฐานการแต่งหน้าสวย เนียน!!

สมัยนี้แล้วสาวๆ คนไหนยังแต่งหน้าไม่เป็นต้องรีบอัพเดทกันหน่อยนะจ๊ะ วันนี้ แต่งหน้าใส.blogspot ได้นำเกร็ดความรู้การแต่งหน้ามาฝากกัน รับรองไม่ผิดหวังจ้า มาเริ่มกันที่...

1. สาวๆ ต้องทำความสะอาดผิว ด้วยการล้างหน้าให้สะอาดก่อนแต่งหน้าทุกครั้ง จำไว้เลยนะจ๊ะว่าทุกครั้ง หมั่นขัดผิวหน้าด้วยสครับเพื่อเป็นการช่วยให้ผิวหน้าผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ผิวหน้าจะได้ใสปราศจากเซลล์ผิวเก่า หรือเรียกอีกอย่าวว่าขี้ไคล ก็ได้
2. ทาครีมบำรุงผิวที่มีมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เป็นส่วนประกอบ เพื่อเป็นการบำรุงผิว ถนอมสภาพผิวให้มีอายุยืนยาวตามที่ควรจะเป็น สำหรับสาวๆคนไหนต้องทำงานกลางแดดก็ควรทาครีมกันแดดด้วยนะจ๊ะ ป้องกันการเกิดฝ้า กระ ที่ผิวหน้าได้ เพราะแสงแดดบ้านเรามันแรงขึ้นทุกวัน = = ' ป้องกันไว้ก่อนเลย
3. ลงคอนซีลเลอร์ เพื่อให้หน้าดูสว่างขึ้น เริ่มด้วยการใช้ปลายนิ้วไร้ไปตามใต้ดวงตา ค่อย ๆ เกลี่ยให้ชิดขนตาด้านล่างตลอดจากหัวตาไปจนถึงหางตา สำหรับสาวผิวขาว ให้ใช้คอนซีลเลอร์ที่ออกโทรเหลือง และถ้าสาวผิวคล้ำ ให้เลือกใช้คอนซีลเลอร์ที่ออกโทนชมพูจ้า
4. การรองพื้น รองพื้นมีให้เลือกทั้งแบบน้ำ ครีม เจล น้ำมัน และแบบแท่ง ควรเลือกใช้ตามสภาพผิว *ผิวมันควรเลือกใช้แบบบางเบาประเภทที่เป็นเจล หรือน้ำเพื่อไม่ใช้หน้ามันเย้อ *คนผิวแห้งมาก ต้องเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า ควรเลือกประเภทที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ถ้าหากเป็นสิวก็ให้เลือกชนิดปราศจากน้ำมัน (Oil Free) เมื่อเลือกรองพื้นที่เหมาะกับสภาพผิวแล้วขั้นต่อไปก็ไม่ใชเรื่องยากกันแล้วจ้า !!อย่าลืมนะจ๊ะ ว่าต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวและสีผิวด้วย!! การลงรองพื้นถ้าสาวๆ เกลียไม่ดีหน้าอาจจะด่าง หรือหากลงรองพื้นมากเกินไปหน้าก็จะหนา จะเกิดรอยแตก เป็นเส้นๆ เวลาสาวๆแสดงอาการต่างๆบนใบหน้า แลดูไม่สวย ดังนั้นแนะนำว่าให้ลงแต่น้อย ค่อย ๆ เกลียให้เสมอกัน
5. การทาแป้ง แป้งมีหลายชนิดให้เลือกได้ตามใจชอบ ทั้งแป้งฝุ่นซึ่งเป็นแป้งที่มีเนื้อบางเบาสำหรับคนที่ชอบแต่งหน้าใส ๆ แบบเผยผิวจริง แป้งพัฟฟ์สะดวกในการพกพา และช่วยเสริมให้หน้าดูเนียนเรียบ สุดท้ายแป้งรองพื้นสะดวกใช้แต่อาจจะดูไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่เพราะมีเนื้อที่ค่อนข้างหนา ให้สาวๆ เลือกตามความเหมาะสมของสภาพผิว ความชอบ และสถานะการณ์ก็แล้วกันจ้า
6. การแต่งคิ้ว ถ้าคุณเป็นสาวที่มีคิ้วที่รกทึบ ขอแนะนำว่าให้จัดแต่คิ้วให้ได้รูปด้วยมีดโกน หรือจะถอนด้วยแหนบก็ได้ก่อนการเขียนคิ้ว เพราะคิ้วที่รกจะทำให้การแต่งหน้าไม่เกิดประโยชน์เลย หลังจากคิ้วได้รูปสวยไม่เล็กไป ไม่ใหญ่ไป ก็ให้เขียนคิ้วให้เป็นรูป โดยเลือกใช้สีที่อ่อนกว่าสีผมนะจ๊ะ เพราะจะทำให้หน้าสว่าง แล้วก็ดูอ่อนโยน หลังจากเขียนคิ้วได้รูปตามต้องการใช้แปรงปัดขนคิ้วให้เรียงตัวเป็นระเบียบ
7. อายแชโดว์สำหรับกลางวัน วันธรรมดา แค่ปัดเปลือกตาด้วยสีอ่อน ๆ ก็เพียงพอแล้ว แต่หากต้องการเพิ่มมิติให้กับเปลือกตา ควรเลือกทาอายแชโดว์ 3 สี ที่อยู่ในโทนเดียวกัน ที่มักจะถูกเซตอยู่ในตลับเดียวกันอยู่แล้ว โดยการไล่จากสีอ่อนสุดให้ทั่วเปลือกตา จากนั้นใช้สีที่เข้มปานกลาง ทาที่เปลือกตาช่วงรอยพับ (เวลาเราหลับตาจะมีส่วนที่นูนออกมา) ทาให้ทั่วจนถึงขอบขนตา แล้วใช้สีที่เข้มกว่าเขียนเป็นเส้นทีให้ชิดขอบขนตาจ้า
8. อายไลเนอร์เพื่อไม่ไห้ตกเทรนเกาหลีตากลม โต ละก็ ต้องไม่ลืมการลากอายไลเนอร์เบา ๆ ให้ชิดขอบขนตาบน มีให้เลือกใช้ทั้งชนิดน้ำปลายภู่กัน ติดทนนานเส้นสวยแต่อาจจะเล่อง่ายสำหรับมือใหม่ หรือจะเลือกใช้ชนิดดินสอเขียนง่ายไม่เล่อเทอ ก็เลือกได้ตามความถนัดของแต่ละคน
9. บลัชออนชนิดของบลัชออนก็คล้ายกับอายแชโดว์ คือมีทั้งชนิด ฝุ่น ครีม และชนิดน้ำ การทาบลัชออนให้สวยคือเวลาทาให้ยิ้มเพื่อหาตำแหน่งของแก้มที่เหมาะสมจะทาให้ทางที่พวกแก้มที่เปล่งที่สุด แล้วไล้เฉียงสูงขึ้นไปเล็กน้อย ควรใช้แปรงปัดแก้มที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่จะปัดได้สวยกว่า อย่าปัดให้เข้มจนเกินไปนักเพราะอาจจะทำให้คิดว่าเป็นก้นลิงไม่ใช่แก้ม >.< ระวังกันหน่อยนะจ๊ะสาวๆ
10. ลิปสติก ก่อนการทาลิปสติก ให้เขียนขอบปากด้วยดินสอเขียนขอบปากโดยให้เลือกสีที่ใกล้เคียงกับสีลิปสติกให้มากที่สุด ถ้าไม่ชอบเขียนหรือเป็นวันสบาย ๆ ก็อาจไม่ต้องเขียนขอบปากก็ได้ ส่วนการทางลิปสติกควรใช้ภูกัน เพราะจะทำให้สีกลมกลืนเข้ากับริมฝีปาก และเก็บรายละเอียดของรูปปากได้มากขึ้น คุณอาจเพิ่มความันวาวด้วยลิปกลอสเพื่อให้ปากดูชุ่มฉ่ำ ข้อควรระวังจ้า!!ไม่ควรทาลิปกลอสให้หนักมือเกินไป เพราะอาจจะดูคล้ายคนที่เพิ่งทานปาท้องโก๋เสร็จใหม่ ๆ

เห็นไหมจ๊ะสาวๆ ไม่ยากเลย มือใหม่ทั้งหลายหาซื้อเครื่องสำอางที่กล่าวมาทั้งหมดได้เลยนะจ๊ะ หรือว่าถ้ายังไม่พร้อม ทริปหน้ารอดูชนิดของรองพื้นต่อได้เลยจ้า จะได้เลือกแบบฉบับที่เหมาะกับตัวเอง^^ ที่สำคัญอย่าลืมรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวสาวๆด้วยนะจ๊ะ เพื่อความสวยที่ยั่งยืน ~^^~

แนะนำเว็บเพื่อการแต่งหน้าใสๆแบบเกาหลี สอนแต่งหน้ารับปริญญา-เจ้าสาว


สวัสดีจ้า!! เว็บนี้เป็นการรวมทริปต่างๆของการแต่งหน้ามาให้เพื่อนๆได้นำเทคนิคไปใช้แต่งหน้ากัน

สาวๆจะได้แต่งหน้าแบบใสๆ หวานๆ แบบเกาหลีซึ่งกำลังอินแทรนม๊ากมากในขณะนี้ >.< รวมถึง การแต่งหน้ารับปริญญาหรือเจ้าสาวด้วยตัวเอง ^^ มาสนุกกับเทคนิคการแต่งหน้ากับ แต่งหน้าใส.blogspot.com กันเลยนะจ๊ะ

แต่งหน้าใส.blogspot.com สอนแต่งหน้ารับปริญญา-แต่งหน้าเจ้าสาว ค่า

>> แต่งหน้าใสๆ แบบสไตล์เกาหลี สอนแต่งหน้ารับปริญญา แต่งหน้าเจ้าสาวด้วยตัวเอง
http://แต่งหน้าใส.blogspot.com. ขับเคลื่อนโดย Blogger.

เทคนิคแต่งหน้ารับปริญญา ให้สวย ดูดี เด่นกว่าใคร

เทคนิคแต่งหน้ารับปริญญา ให้สวย ดูดี เด่นกว่าใคร

คราวนี้ http://แต่งหน้าใส.blogspot.com มีทริป เทคนิคการแต่งหน้ารับปริญญา ให้สวย ดูดี เด่นกว่าใคร มาฝากกันจ้า ให้สาวๆที่เตรียมตัวรับปริญญาไปใช้กันได้เลยทีเดียว ^^

ก่อนอื่นสาวๆ ต้องรู้ว่าการแต่งหน้ารับปริญญา ควรยึดหลักทางสายกลางคือ แต่งแบบแนวธรรมชาติ ควรคำนึงถึงว่า วันที่รับต้องมีการถ่ายรูปเยอะ เจอแสงแฟลชมากกว่าที่ปกติ แสงแฟลชจะช่วยกลบเงาบนใบหน้าของบัณฑิต แต่งหน้าต้องให้เข้มนิดนึง เน้นตา และปาก (แต่ไม่ต้องมากจนเหมือนไปงานกลางคืน) เพราะแสงแดดและไฟทั้งหลายจะทำให้สีบนใบหน้าดรอปลงไปอีก


สีที่เหมาะกับการแต่งหน้ารับปริญญา ก็คือสีแนวเอิร์ธโทน ทอง ส้ม และชมพู โดยเฉพาะสีเอิร์ธโทน เข้าได้กับทุกสีผิว ดูเป็นธรรมชาติ และเรียบร้อยเข้ากับชุดครุย

เครื่องสำอางที่ควรหลีกเลี่ยง ก็คือ เครื่องสำอางแบบ shimmer ซุปเปอร์วิ้งกระจายทั้งหลาย งานนี้พับเก็บใส่กระเป๋าไว้ที่บ้านก่อน เพราะเวลาโดนแสงแฟลชแล้ว ไอ้วิ้งๆ นี่จะทำให้หน้าของสาวๆ ดูมันกว่าความเป็นจริง และบางมุมดูเราจะเหมือนนางเอกลิเกไปเลย


เครื่องสำอางแบบมุกๆ ก็ยังใช้ได้อยู่ ทำให้หน้าดูไม่เรียบเหมือนการใช้เครื่องสำอางแบบแมทๆ แต่ก็ไม่ควรลงจนหนักมือจนเกินไป ก็อาจให้ผลเดียวกับ shimmer ทั้งหลายได้เช่นกันค่ะ

อีกอย่างที่ควรหลีกเลี่ยง คือ ลิปกรอส มันๆๆๆๆ วาวๆๆๆๆๆๆ พวกนี้ถ้าโดนแสงแฟลช แล้วจะสะท้อนแสงแฟลชมากๆ ทำให้ดูไม่สวยเช่นกัน ลิปสติกเนื้อแมท เป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับงานนี้ หรือถ้ากลัวปากแห้งมาก จะใช้ลิปพวก watershine หรือ กรอสแบบไม่มีสีและไม่วาวจนเกินไปก็ยังพอไหวจ้า


วิธีการ แต่งหน้ารับปริญญา (แบ่งปันข้อมูลดีดี fwdder)

…Eyes and Eyebrow....

How to วันนี้เป็นแบบเร่งด่วนหน่อยนะคะ เพราะไม่มีเวลาทำแบบละเอียด ^^"







1. ลงด้วยสีน้ำตาลเข้มหรือดำ ไล่ระดับความเข้มจากหางตาเข้ามาหากึ่งกลาง ประมาณ 1/3ของดวงตา ถ้าต้องการให้ตาดูโตขึ้น ให้ทาอายแชโดว์ต่อจากหางตาออกไปเล็กน้อย และเกลี่ยให้ลงมาถึงขอบตาล่าง จากห่างตาเข้าไปประมาณ 1/3 ของตาเช่นกัน

2. ลงทับด้วยสีน้ำตาลอ่อน หรือสีทอง (ลงทับสีน้ำตาลที่ทาไว้ตอนแรก จะทำให้สีอ่อนลง และหางตาดูมีมิติมากขึ้น) ลงให้ทั่วเปลือกตา เกลี่ยสีให้เข้ากับสีแรกที่ลง และทาเกินบริเวณรอยพับเปลือกตาเล็กน้อย กะดูว่าเมื่อลืมตาแล้วเห็นสีน้ำตาลฝทองที่ลงไว้ แต่ไม่ต้องลงจนถึงโหนกคิ้ว (ส่วนบนสุดของโซน 3)

3. ใช้อายแชโดว์สีขาวหรือครีมเป็นไฮไลต์ ลงเหนือบริเวณที่ 2 และ เกลี่ยให้เข้ากันจนมองไม่เห็นรอยต่อของสี ถ้าลงบริเวณที่ 2 เข้มมาก สามารถลงสีไฮไลต์ทับลงไปได้

- อาจลงน้ำหนักสีที่ 2 บริเวณหัวตาเพิ่มนิดหน่อย (ประมา 1/3) เพื่อให้ตาดูมีมิติและบาลานซ์กับหางตา
- หรือ อาจใช้ไฮไลต์ หรือ shimmer แตะตรงกึ่งกลางดวงตาเพียงนิดเดียว และ เกลี่ยเป็นช่วงแคบๆ (บริเวณตรงกลางระหว่างเลข 1 และ 2) ให้ตาช่วงกลางดูสว่างขึ้น

4. ใช้สีน้ำตาลอ่อน (สีที่2) ลงทับสีเข้มที่ลงไว้ในตอนแรก จากหางตาเข้ามาประมาณ ¾ ของตา และใช้ไฮไลต์สีขาวลงตรงหัวตา (ไม่ต้องเด่นมาก ถ่ายภาพจะทำให้ดูหลอก) เกลี่ยให้ไม่เห็นรอยต่อของสีเข้มและอ่อน

5. ลงไฮไลต์ใต้ตา และเกลี่ยให้เนียน


…Eyeliner....

* จะใช้หรือไม่ก็ได้ ไม่จำเป็นมาก ถ้าลงอายโดว์ตรงหางตาเข้มพอประมาณ ก็ไม่จำเป็นต้องกรีดไลน์เนอร์ซ้ำก็ได้



* กรีดอายไลน์เนอร์ลิควิดสีดำหรือน้ำตาลเข้ม เป็นเส้นเล็กๆ อาจจะกรีดแบบทั้งตา หรือเขียนแค่ครึ่งเดียวก็ได้ หากต้องการให้ดูธรรมชาติ ควรกรีดแค่พอดีหางตาหรือเกินมาเล็กน้อย และเขียนขอบตาล่างเล็กน้อย

* ถ้ากรีดไลน์เนอร์แบบลิควิดไม่เป็น ใช้ดินสอไลน์เนอร์เขียนก็ได้ แต่ให้เขียนแค่ครึ่งตา และพยายามเขียนให้เส้นเล็กชิดขอบตามากที่สุด อาจใช้คอตต้อนบัดช่วยเกลี่ยเส้นให้ดูกลมกลืนกับอายแชโดว์ที่ลงไว้ก็ได้

* หลังจากนั้นก็ ดัดขนตา ปัดมาสคาร่าตามระเบียบ

* การเขียนคิ้ว ไม่ควรใช้สีดำลงคิ้ว ให้ใช้สีน้ำตาล หรือน้ำตาลอ่อนจะดีกว่า จะทำให้ใบหน้าดูซอฟท์ลงและสว่างขึ้น


…Cheek and Lips....

* ปัดแก้มให้พอดูมีสีสันแต่ไม่ต้องเข้มมาก เริ่มปัดจากส่วนที่ต้องการจะเน้นแล้วค่อยๆ เกลี่ยให้กระจายออกไป

* สุดท้ายและท้ายสุด สีลิปสติก เอามาเปรียบเทียบให้ดู 3 แบบ แล้วลองเลือกเอาละกันนะคะ ว่าชอบแบบไหน


…Cosmetic....

ด้านบนคือ Idea และ เทคนิคในการแต่งหน้า ให้ไว้เป็นแนว สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ตามสบาย

ส่วนข้างล่างคือรายการเครื่องสำอางที่ใช้แต่งหน้าด้านบนค่ะ
ราคาย่อมเยาและหาซื้อได้ไม่ยากค่ะ

ตา

Kate Line Spicy Eyeshadow - พอดีเพิ่งได้มาใหม่เลยลองเล่นซะเลย

ภาพที่เห็นนี่นำมาจากอินเตอร์เนตค่ะ เพราะไม่ได้ถ่ายตลับไว้ สีจะไม่ค่อยเหมือนที่ใช้อยู่จริงๆ ภาพนี้จะออกหม่นๆ กว่านะคะ แต่สีที่เราใช้จะเป็นสีออกทองกว่านี้ค่ะ รู้สึกจะเป็น BR-1 (ขอโทษด้วย ไม่ได้ถ่ายรูปไว้และตลับไม่ได้อยู่กับตัว)

สีจะออกโทนเดียวกัน และเราลงสีตามหมายเลขที่กำกับไว้ค่ะ






Eyeliner & Mascara

eyeliner และ มาสคาร่าใช้ jetset ของ cutepress แต่ตอนปัดมาสคาร่า ใช้ fasio ปัดบางๆ ก่อน 1 รอบ เพราะ jetset จะไม่ติดทนทั้งวัน แต่ปัดแล้วขนตายาวสวยกว่า fasio ค่ะ (ตามประสบการณ์นะคะ)

แก้ม
ใช้สี Missha Blusher สี Cooper Bronze

ปาก

1. รูปซ้ายใช้ hazelnut sauce ของ เมเบลีน ผสมกับ carnation ของ BB
รูปที่ 2 ใช้ carnation ของ BB
รูปที่ 3 ใช้ Burnt Red

เสร็จเรียบร้อยกันแล้ว กับการสอนสอนแต่งหน้ารับปริญญาแบบง่ายๆ ดูไว้เป็นไอเดีย ขอให้สาวๆสวยในวันงานกันทุกคน และแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ทุกคนเลยจ้า ^^

วิธีการเขียนขอบตาบน ล่าง ด้วยอายไลน์เนอร์ สไตล์เกาหลี แบบ YuBin (ยูบิน) Wonder Girls

วิธีเขียนขอบตาบน ล่าง ด้วยอายไลน์เนอร์ สไตล์เกาหลี (YuBin ยูบิน Wonder Girls)





เห็นแล้วง่ายนิ๊ดดดเดียว >.< สาวๆ ลองเขียนขอบตาแบบนี้กันดูนะจ๊ะ สวย ใส กันยังไงอย่างลืมบอกต่อๆกันล่ะ ^^

ดูแลรักษาขนตาให้สวย ถนอมไว้ยาวนานกับการแต่งหน้าใส

ดูแลรักษาขนตาให้สวย ถนอมไว้ยาวนานกับการแต่งหน้าใส


ขนตาสวย ยาว งอนงามช่วยเสริมสร้างเสน่ห์ที่ดวงตาของคุญได้ไม่น้อยเลยทีเดียวนอกเหนือจากการแต่งหน้าใสแล้ว ขนดางอน ยาว ทำให้ใบหน้าดูสวย มีเสน่ห์ขึ้นด้วย เหตุนี้จึงทำให้สาว ๆ ลุกขึ้นมาปัดขนตาให้งอนยาวบวกเด้งกันยกใหญ่ นอกจากนี้ความสวยเพียงอย่างเดียวไม่พอเสียแล้ว สาวๆต้องรู้จักการดูแลรักษาขนตาให้แข็งแรงด้วยเพื่อความสวยที่ยืนยาว วันนี้ http://xn--72c1an2ed7b9fva4bn.blogspot.com จึงมีคำแนะนำดีดีในการดูแล รักษา ขนตา ถนอมไว้ยาวนานกับการแต่งหน้าใสจากสถาบันลอรีอัล(L'Oreal) มาฝากสาวๆ กัน

ก่อนอื่นเรามาลองทำความรู้จักกับขนตากันก่อน "ขนตา" มีลักษณะเป็นเส้นโค้งทำหน้าที่ป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับดวงตาและทำให้กระจกตามีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ โดย มีการเรียงตัวของขน 2-4 แถวตามแนวของขอบหนังตา ซึ่งขนตาบนมีมากกว่าและยาวกว่าขนตาล่าง แบ่งโครงสร้างได้เป็น 3 ชั้น คือชั้นเปลือกขน, ชั้นนอกจะมีเม็ดสีอยู่บริเวณต่อมรากขน และชั้นใน ขนตาไม่มีกล้ามเนื้อยึดเกาะที่ตัวขน แต่มีต่อมใต้ผิวหนังจำนวนมากบริเวณขนตา ประกอบด้วยต่อมเหงื่อและต่อมไขมัน อยู่ร่วมกับต่อมรากขนของขนตา ทำหน้าที่สร้างน้ำมันมาเคลือบขนตา และยังมีต่อมไขมันชนิดพิเศษเรียกว่า Meibomian gland คอยสร้างสารประเภทไขมันเหมือนฟิล์มบาง ๆ เคลือบดวงตาเพื่อป้องกันไม่ให้ตาแห้งเกินไป ขนตามีความแข็งแรงน้อยและระยะการเติบโตที่ช้า ดังนั้นจึงควรดูแลถนอมขนตาให้สะอาดแข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ คือ

1. ทำความสะอาดมาสคาร่าออกให้หมด ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดโดยเฉพาะชุบสำลีเช็ดเบา ๆ อย่าปล่อยให้มาสคาร่าเกาะติดขนตาข้ามคืนเพราะอันตราย ต่อดวงตาและขนตา พักขนตาบ้าง เพื่อให้ขนตาได้พักผ่อนและหายใจโดยไม่มีสิ่งใดมาบัง

2. กินอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อช่วยให้ขนตาแข็งแรง เนื้อวัว หมู ไข่ นมเนย ผักใบเขียว ถั่ว ธาตุเหล็ก สังกะสี วิตามินซี และบีรวม

3. บำรุงขนตา ด้วยการทาเซรั่มหรือผลิตภัณฑ์บำรุงขนตาโดยเฉพาะ จะทำให้ ขนตาแข็งแรง หลุดร่วงน้อย ควรเลือกชนิดที่ปราศจากน้ำหอมและสารระคายเคืองดวงตา

4. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อขนตา เพื่อไม่ให้ขนตาร่วงก่อนเวลาอันควร เวลาล้างมาสคาร่าต้องทำอย่างเบามือ เลิกขยี้ตาหรือถูตาแรง ๆ

5. เลี่ยงการติดขนตาปลอม เพราะบางชนิดคุณภาพต่ำอาจทำให้เกิดการแพ้บริเวณขอบตา กระจกตาอักเสบ อีกทั้งเวลาดึงขนตาปลอมอาจทำให้ขนตาจริงหลุดติดมาด้วย ถ้าทำบ่อยจะทำให้ขนตาหลุดร่วง ไม่แข็งแรง หักง่าย ยิ่งถ้าขนตาปลอมไม่สะอาดพออาจทำให้ดวงตาติดเชื้ออักเสบได้


คราวนี้สาวๆ ก็รู้จักวิธีดูแลรักษาขนตาให้สวย ถนอมไว้ยาวนานกับการแต่งหน้าใสกันแล้ว ลองปฏิบัติๆกันดูนะคะ ถ้าได้ผลดียังไง ก็อย่างลืมบอกต่อๆกันนะจ๊ะ เผื่อความงามจะได้อยู่คู่สาวๆ ไปนานๆ ^^

ประเภทรองพื้นที่เหมาะกับผิวหน้าคุณ ^_~



สวัสดีค่ะ http://แต่งหน้าใส.blogspot.com มีความรู้ดีๆ สำหรับสาวๆมาฝากกันเช่นเคย^^ การแต่งหน้าด้วยตนเองเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน เราต้องเข้าใจสภาพผิวของเราว่าเป็นผิวแห้ง ผิวมันหรือผิวผสม เพราะวันนี้ แต่งหน้าใส ขอเสนอเรื่องของรองพื้น ชนิดของรองพื้นประเภทต่างๆ ให้สาวๆได้เลือกใช้ก่อนการแต่งหน้าขั้นต่อไป มาดูกันสิคะว่า รองพื้นชนิด หรือประเภทไหนจะเหมาะกับผิวคุณ ~^^~

รองพื้นโดยทั่วไป มีทั้งหมด 8 ประเภทดังนี้

1. รองพื้นแบบแท่ง (Stick Foundation): ผลิตภัณฑ์รองพื้นนี้ เป็นรองพื้นและconcealerรวมกันเป็นหนึ่งแท่ง ในการแต่งหน้ารองพื้นแบบแท่งสามารถช่วยปกปิดผิวที่มีปัญหาเช่น ริ้วรอย แผลเป็น สีไม่เท่ากันของผิว ได้มากขึ้นกว่ารองพื้นชนิดอื่นๆ เหมาะสำหรับผิวแห้ง ไม่เหมาะสำหรับผิวมัน ข้อดี คือ ใช้ได้ง่ายและปกปิดได้อย่างรวดเร็ว


2. รองพื้นแบบน้ำ (Liquid Foundation): รองพื้นชนิดนี้พอมากตามท้องตลาด มันออกมาในรูป oil free เหมาะกับทุกสภาพผิว เป็นพื้นฐานของรองพื้น และเหมาะกับผู้เริ่มฝึกแต่งหน้า หรือคนที่ต้องการการแต่งหน้าแบบเผยผิวจริง แต่งหน้าใสๆ แต่งหน้าแบบเกาหลี เป็นต้น เพราะใช้ง่าย ส่วนการปกปิดนั้น ปกปิดได้ไม่มากจ้า
3. รองพื้นแบบครีม (Cream Foundation): รองพื้นครีม เน้นการปกปิดที่ดีมาก เพราะเนื้อครีมจะหนา ติดทนนาน ผู้ใช้รองพื้นแบบครีมต้องมีความชำนาญในระดับหนึ่งก่อนจึงจะเริ่มใช้ หรือไม่ก็เลือกใช้เฉพาะส่วนของผิวหน้าที่มีปัญหา ข้อแนะนำ:ควรใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆ ช่วยเกลี่ยเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
4. รองพื้นแบบมูส (Mousse Foundation): รองพื้นแบบมูสคือรองพื้นเนื้อครีมธรรมดา ที่ทำในรูปแบบฟองครีม เป็นรองพื้นปกปิดบางเบาแลดูเป็นธรรมชาติ รองพื้นแบบมูสจะไม่เกาะตามรอยร่องที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ของผิวหน้า จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้มีริ้วรอย หรือ ผู้มีอายุ
5. รองพื้นแบบทิ้นส์ (Tinted Moisturizer): ในที่นี้ คือ มอยเจอร์ไรเซอร์ ครีมบำรุงผิวที่เติมสีลงไปเล็กน้อย ทำให้หลังใช้จะดูผิวเรียนเนียนขึ้น แต่ไม่ช่วยปกปิดมากนัก เหมาะกับสภาพผิวที่ดีอยู่แล้ว และต้องโดนใจสำหรับสาวๆที่ชอบแต่งหน้าใสๆ ~^^~ เลยละซิ





6. รองพื้นแบบเปลี่ยนสถานะ (Cream to Powder): รองพื้นชนิดนี้เหมาะกับผิวมัน เพราะหลังจากทารองพื้นไปบนผิวหน้า ครีมรองพื้นชนิดนี้จะเปลี่ยนเป็นแป้งโดยเร็ว เนื่องจากแป้งมีตัวช่วยซับน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าเอาไว้
7. รองพื้นแบบแป้ง (Powder Foundation): รองพื้นแบบแป้ง จะเหมากับสาวๆ ที่เพิ่งหัดแต่งหน้า เพราะใช้ง่าย แม้สาวคนไหนไม่เคยใช้มาก่อนก่อตาม ปกปิดได้ปานกลาง นอกจากนี้ยังเหมาะกับช่วงหน้าร้อน เพราะไม่ทำให้ผิวเหนอะหนะ
8. รองพื้นแบบสเปรย์ (Spray Foundation): รูปแบบของรองพื้นประเภทนี้ เป็นรองพื้นที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ ใช้ง่าย ที่ให้ความรู้สึกบางเบาสบายผิว สามารถฉีดเสปรย์ไปบนผิวหน้าได้โดยตรง หรือ ใช้ฟองน้ำก็ได้

ว้าว!! คราวนี้สาวๆก็มีความรู้เรื่องรองพื้นกันแล้ว ลองหาซื้อมาใช้กันได้เลยนะจ๊ะ อย่าลืมให้เหมาะกับผิวหน้า และลักษณะการแต่งหน้าที่คุณต้องการ แต่งหน้าใสๆ แต่งหน้าแบบเกาหลี ก็ใช้รองพื้นที่ปกปิดไม้ต้องหนามากนัก หากต้องออกงานกลางแจ้ง เช่นงานรับปริญญา งานแต่งงาน ก็เลือกที่ปกปิดริ้วรอย หรือแผลเป็นมากสักหน่อย หรือลองสอบถามผู้เชียวชาญ เพื่อนๆ ดูก็ได้นะจ๊ะ เพื่อความงามของสาวๆเองล่ะจ้า!

10 พื้นฐานการแต่งหน้าสวย เนียน!!

สมัยนี้แล้วสาวๆ คนไหนยังแต่งหน้าไม่เป็นต้องรีบอัพเดทกันหน่อยนะจ๊ะ วันนี้ แต่งหน้าใส.blogspot ได้นำเกร็ดความรู้การแต่งหน้ามาฝากกัน รับรองไม่ผิดหวังจ้า มาเริ่มกันที่...

1. สาวๆ ต้องทำความสะอาดผิว ด้วยการล้างหน้าให้สะอาดก่อนแต่งหน้าทุกครั้ง จำไว้เลยนะจ๊ะว่าทุกครั้ง หมั่นขัดผิวหน้าด้วยสครับเพื่อเป็นการช่วยให้ผิวหน้าผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ผิวหน้าจะได้ใสปราศจากเซลล์ผิวเก่า หรือเรียกอีกอย่าวว่าขี้ไคล ก็ได้
2. ทาครีมบำรุงผิวที่มีมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เป็นส่วนประกอบ เพื่อเป็นการบำรุงผิว ถนอมสภาพผิวให้มีอายุยืนยาวตามที่ควรจะเป็น สำหรับสาวๆคนไหนต้องทำงานกลางแดดก็ควรทาครีมกันแดดด้วยนะจ๊ะ ป้องกันการเกิดฝ้า กระ ที่ผิวหน้าได้ เพราะแสงแดดบ้านเรามันแรงขึ้นทุกวัน = = ' ป้องกันไว้ก่อนเลย
3. ลงคอนซีลเลอร์ เพื่อให้หน้าดูสว่างขึ้น เริ่มด้วยการใช้ปลายนิ้วไร้ไปตามใต้ดวงตา ค่อย ๆ เกลี่ยให้ชิดขนตาด้านล่างตลอดจากหัวตาไปจนถึงหางตา สำหรับสาวผิวขาว ให้ใช้คอนซีลเลอร์ที่ออกโทรเหลือง และถ้าสาวผิวคล้ำ ให้เลือกใช้คอนซีลเลอร์ที่ออกโทนชมพูจ้า
4. การรองพื้น รองพื้นมีให้เลือกทั้งแบบน้ำ ครีม เจล น้ำมัน และแบบแท่ง ควรเลือกใช้ตามสภาพผิว *ผิวมันควรเลือกใช้แบบบางเบาประเภทที่เป็นเจล หรือน้ำเพื่อไม่ใช้หน้ามันเย้อ *คนผิวแห้งมาก ต้องเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า ควรเลือกประเภทที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ถ้าหากเป็นสิวก็ให้เลือกชนิดปราศจากน้ำมัน (Oil Free) เมื่อเลือกรองพื้นที่เหมาะกับสภาพผิวแล้วขั้นต่อไปก็ไม่ใชเรื่องยากกันแล้วจ้า !!อย่าลืมนะจ๊ะ ว่าต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวและสีผิวด้วย!! การลงรองพื้นถ้าสาวๆ เกลียไม่ดีหน้าอาจจะด่าง หรือหากลงรองพื้นมากเกินไปหน้าก็จะหนา จะเกิดรอยแตก เป็นเส้นๆ เวลาสาวๆแสดงอาการต่างๆบนใบหน้า แลดูไม่สวย ดังนั้นแนะนำว่าให้ลงแต่น้อย ค่อย ๆ เกลียให้เสมอกัน
5. การทาแป้ง แป้งมีหลายชนิดให้เลือกได้ตามใจชอบ ทั้งแป้งฝุ่นซึ่งเป็นแป้งที่มีเนื้อบางเบาสำหรับคนที่ชอบแต่งหน้าใส ๆ แบบเผยผิวจริง แป้งพัฟฟ์สะดวกในการพกพา และช่วยเสริมให้หน้าดูเนียนเรียบ สุดท้ายแป้งรองพื้นสะดวกใช้แต่อาจจะดูไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่เพราะมีเนื้อที่ค่อนข้างหนา ให้สาวๆ เลือกตามความเหมาะสมของสภาพผิว ความชอบ และสถานะการณ์ก็แล้วกันจ้า
6. การแต่งคิ้ว ถ้าคุณเป็นสาวที่มีคิ้วที่รกทึบ ขอแนะนำว่าให้จัดแต่คิ้วให้ได้รูปด้วยมีดโกน หรือจะถอนด้วยแหนบก็ได้ก่อนการเขียนคิ้ว เพราะคิ้วที่รกจะทำให้การแต่งหน้าไม่เกิดประโยชน์เลย หลังจากคิ้วได้รูปสวยไม่เล็กไป ไม่ใหญ่ไป ก็ให้เขียนคิ้วให้เป็นรูป โดยเลือกใช้สีที่อ่อนกว่าสีผมนะจ๊ะ เพราะจะทำให้หน้าสว่าง แล้วก็ดูอ่อนโยน หลังจากเขียนคิ้วได้รูปตามต้องการใช้แปรงปัดขนคิ้วให้เรียงตัวเป็นระเบียบ
7. อายแชโดว์สำหรับกลางวัน วันธรรมดา แค่ปัดเปลือกตาด้วยสีอ่อน ๆ ก็เพียงพอแล้ว แต่หากต้องการเพิ่มมิติให้กับเปลือกตา ควรเลือกทาอายแชโดว์ 3 สี ที่อยู่ในโทนเดียวกัน ที่มักจะถูกเซตอยู่ในตลับเดียวกันอยู่แล้ว โดยการไล่จากสีอ่อนสุดให้ทั่วเปลือกตา จากนั้นใช้สีที่เข้มปานกลาง ทาที่เปลือกตาช่วงรอยพับ (เวลาเราหลับตาจะมีส่วนที่นูนออกมา) ทาให้ทั่วจนถึงขอบขนตา แล้วใช้สีที่เข้มกว่าเขียนเป็นเส้นทีให้ชิดขอบขนตาจ้า
8. อายไลเนอร์เพื่อไม่ไห้ตกเทรนเกาหลีตากลม โต ละก็ ต้องไม่ลืมการลากอายไลเนอร์เบา ๆ ให้ชิดขอบขนตาบน มีให้เลือกใช้ทั้งชนิดน้ำปลายภู่กัน ติดทนนานเส้นสวยแต่อาจจะเล่อง่ายสำหรับมือใหม่ หรือจะเลือกใช้ชนิดดินสอเขียนง่ายไม่เล่อเทอ ก็เลือกได้ตามความถนัดของแต่ละคน
9. บลัชออนชนิดของบลัชออนก็คล้ายกับอายแชโดว์ คือมีทั้งชนิด ฝุ่น ครีม และชนิดน้ำ การทาบลัชออนให้สวยคือเวลาทาให้ยิ้มเพื่อหาตำแหน่งของแก้มที่เหมาะสมจะทาให้ทางที่พวกแก้มที่เปล่งที่สุด แล้วไล้เฉียงสูงขึ้นไปเล็กน้อย ควรใช้แปรงปัดแก้มที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่จะปัดได้สวยกว่า อย่าปัดให้เข้มจนเกินไปนักเพราะอาจจะทำให้คิดว่าเป็นก้นลิงไม่ใช่แก้ม >.< ระวังกันหน่อยนะจ๊ะสาวๆ
10. ลิปสติก ก่อนการทาลิปสติก ให้เขียนขอบปากด้วยดินสอเขียนขอบปากโดยให้เลือกสีที่ใกล้เคียงกับสีลิปสติกให้มากที่สุด ถ้าไม่ชอบเขียนหรือเป็นวันสบาย ๆ ก็อาจไม่ต้องเขียนขอบปากก็ได้ ส่วนการทางลิปสติกควรใช้ภูกัน เพราะจะทำให้สีกลมกลืนเข้ากับริมฝีปาก และเก็บรายละเอียดของรูปปากได้มากขึ้น คุณอาจเพิ่มความันวาวด้วยลิปกลอสเพื่อให้ปากดูชุ่มฉ่ำ ข้อควรระวังจ้า!!ไม่ควรทาลิปกลอสให้หนักมือเกินไป เพราะอาจจะดูคล้ายคนที่เพิ่งทานปาท้องโก๋เสร็จใหม่ ๆ

เห็นไหมจ๊ะสาวๆ ไม่ยากเลย มือใหม่ทั้งหลายหาซื้อเครื่องสำอางที่กล่าวมาทั้งหมดได้เลยนะจ๊ะ หรือว่าถ้ายังไม่พร้อม ทริปหน้ารอดูชนิดของรองพื้นต่อได้เลยจ้า จะได้เลือกแบบฉบับที่เหมาะกับตัวเอง^^ ที่สำคัญอย่าลืมรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวสาวๆด้วยนะจ๊ะ เพื่อความสวยที่ยั่งยืน ~^^~

แนะนำเว็บเพื่อการแต่งหน้าใสๆแบบเกาหลี สอนแต่งหน้ารับปริญญา-เจ้าสาว


สวัสดีจ้า!! เว็บนี้เป็นการรวมทริปต่างๆของการแต่งหน้ามาให้เพื่อนๆได้นำเทคนิคไปใช้แต่งหน้ากัน

สาวๆจะได้แต่งหน้าแบบใสๆ หวานๆ แบบเกาหลีซึ่งกำลังอินแทรนม๊ากมากในขณะนี้ >.< รวมถึง การแต่งหน้ารับปริญญาหรือเจ้าสาวด้วยตัวเอง ^^ มาสนุกกับเทคนิคการแต่งหน้ากับ แต่งหน้าใส.blogspot.com กันเลยนะจ๊ะ